แผลกดทับ เป็นปัญหาที่พบได้กับผู้ป่วยอัมพาต หรือผู้ป่วยที่ต้องนอนอยู่บนเตียงนาน ๆ และไม่สามารถขยับตัวได้เอง ซึ่งปัญหานี้ไม่ใช่เป็นปัญหาของผู้ป่วยเท่านั้น แต่มันเป็นปัญหาใหญ่ของคนดูแลผู้ป่วยด้วยเช่นกัน และยิ่งถ้าเป็นบุคคลที่เรารัก เคารพและนับถือ ยิ่งเป็นอะไรที่ทรมาน ถ้าต้องเห็นผู้ป่วยต้องเจ็บปวดจากแผลที่ลุกลามมากขึ้น เข้าเรื่องเลยแล้วกันคะ อยากนำประสบการณ์ที่มีโอกาสได้ดูแลพ่อใหญ่ (คุณตา) ที่เป็นแผลกดทับ มาแบ่งปัน เผื่อเพื่อน ๆ ได้นำไปลองใช้ดู อาจจะเขียนช้าหน่อยนะคะ เพิ่งเคยมาใช้เป็นครั้งแรก กว่าจะยืนยันตัวตนได้ก็เสียเวลาไปหลายวัน 555 แสดงความคิดเห็น
การรักษาแผลกดทับโดยวิธีที่ไม่ได้ทำผ่าตัด แผลกดทับที่ไม่ลึกมาก (ระดับที่ 1 และระดับที่ 2) มักจะหายได้เอง โดยไม่ต้องผ่าตัด ถ้าได้รับการดูแลแผลอย่างเหมาะสม และแก้ไขปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดแผล ได้แก่ 1. ลดการกดทับแผล ( Pressure relief) เป็นวิธีที่สำคัญโดยใช้ Low air loss bed หรือ Air-fluidized bed และการพลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชม. ไม่ให้แผลถูกกดทับ 2. ควบคุมภาวะเกร็งของกล้ามเนื้อ ( Spasticity) สามารถลดการเกิดแผลกดทับได้ ซึ่งการรักษาเริ่มตั้งแต่การให้ยาคลายกล้ามเนื้อไปจนถึงการผ่าตัด 3. การให้อาหารที่มีประโยชน์ และเพียงพอจะมีส่วนทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น 4. ควบคุมภาวะติดเชื้อที่แผล ( Infection) และให้การวินิจฉัยและรักษาการติดเชื้อที่กระดูก 5. การกำจัดเนื้อตาย ( Debridement) เป็นวิธีการที่สำคัญ เพื่อประเมินความรุนแรงของแผลกดทับ เนื้อตายจะขัดขวางการหายของแผล และอาจเป็นแหล่งของการติดเชื้อ การกำจัดเนื้อตายทำได้หลายวิธีดังนี้ 5. 1 Surgical debridement or sharp เช่น มีดผ่าตัด กรรไกรตัดเนื้อ 5. 2 Autolytic debridement วิธีการย่อยสลายตัวเองโดยสิ่งคัดหลั่งจากแผล อาจใช้ผลิตภัณฑ์ทำแผลในกลุ่มของ Hydrocolloid เพื่อช่วยให้ความชุ่มชื้นกับแผล หรือผลิตภัณฑ์กลุ่ม Hydrogel ช่วยให้น้ำแทรกซึมเข้าไปในเนื้อตายสามารถช่วยย่อยสลายเนื้อตายได้ 5.
ผ้าก็อตที่สะอาดคือสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแต่คุณยังสามารถใช้วัสดุอื่นๆ ที่สะอาดและซึมซับได้ดี อย่าถูหรือขัดแผล ค่อยๆ ตบบนแผลเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดหรืออาการบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น 5 ทาครีมหรือสเปรย์ฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยต่อมนุษย์.
ถ้าคุณพบอาการติดเชื้อ คุณต้องพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทันที อาการที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อคือมีกลิ่นเหม็นหรือมีของเหลวสีเหลือง เขียวหรือสีเทา ส่วน 3 ของ 3: ขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพ 1 พบสัตวแพทย์ทันทีสำหรับอาการบาดเจ็บที่ดวงตา. แผลทุกชนิดที่ดวงตาอาจทำให้เกิดความเสียหายถาวรกับการมองเห็นของสัตว์เลี้ยงได้ พาสุนัขไปหาสัตวแพทย์ทันทีเพื่อขอคำประเมินและการรักษาเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะรักษาหาย 2 พาสุนัขไปหาสัตวแพทย์เพื่อเย็บแผลลึก. ถ้าหากแผลดูร้ายแรงเหมือนว่าไม่สามารถหายเองได้ คุณต้องให้สัตวแพทย์รักษา แผลทุกชนิดที่ตัดผ่านผิวหนังไปสู่กล้ามเนื้อ เส้นเอ็นหรือใครมันต้องใช้การรักษาจากมืออาชีพ หลังจากการตรวจดูแผล สัตวแพทย์อาจจะเย็บแผลเพื่อให้หายเร็วขึ้น 3 ขอความช่วยเหลือจากสัตวแพทย์สำหรับแผลที่ถูกกัดทุกชนิด. แผลที่ถูกกัดมักจะทำลายเนื้อเยื่อของสุนัข สิ่งนี้อาจทำให้การฟื้นตัวซับซ้อน เพราะฉะนั้นแผลกัดต้องล้างและระบายของเหลวออกซึ่งต้องให้แพทย์เป็นคนวางยาสลบ ปากของสัตว์เต็มไปด้วยแบคทีเรียมากมาย เพราะฉะนั้นมีความเสี่ยงในการติดเชื้อถึงแม้ว่ารอยแผลดูไม่สาหัส [6] 4 ขอให้สัตวแพทย์ระบายของเหลวหรือเล็มแผลถ้าจำเป็น. ถ้าหากแผลเต็มไปด้วยของเหลวแทนที่จะหายเอง คุณต้องให้สัตวแพทย์ประเมินว่าต้องระบายของเหลวออกหรือไม่ การเล็มแผลคือการดึงเนื้อเยื่อรอบแผลที่ถูกทำลายหรือติดเชื้อออก สัตวแพทย์ต้องวางยาสลบเพื่อทำทั้ง 2 ขั้นตอนนี้ 5 ปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับการฆ่าเชื้ออย่างเป็นระบบ.
สำหรับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวร่างกายได้น้อยหรือไม่ได้เลย ส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันต้องอยู่บนเตียงเป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา โดยเฉพาะเรื่องของ " แผลกดทับ" ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ่อย หากเป็นแล้วก็อาจส่งผลร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ เรามาดูกันว่า หากต้องการ รักษาแผลกดทับ ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่? แล้วที่นอนกันแผลกดทับ ใช้ได้ผลจริงไหม? อ่านบทความนี้เลยค่ะ แผลกดทับ คือ อะไร? แผลกดทับ คือ แผลที่เกิดจากการได้รับบาดเจ็บที่ผิวหนังหรือเนื้อเยื่อบริเวณใดบริเวณหนึ่ง เนื่องจากถูกแรงกดทับเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดเนื้อตายและเป็นแผลขึ้นมา และอาจมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย ซึ่งบริเวณเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับได้มากนั้น มักเป็นบริเวณที่มีไขมันปกคลุมผิวหนังน้อยและต้องรับแรงกดทับโดยตรง โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังที่หุ้มกระดูก เช่น ส้นเท้า ข้อเท้า สะโพก หรือกระดูกก้นกบ ภาพจาก: แพทย์หญิงวิกานดา รัตนพันธ์ แผลกดทับ เกิดจากอะไร? ใครเสี่ยงเป็นบ้าง? คลิกเลย!!! สารบัญ รักษาแผลกดทับให้หายได้ไหม? มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? หากไม่รักษาแผลกดทับ จะอันตรายแค่ไหน? รู้หรือไม่?! แผลกดทับป้องกันได้ไม่ยากอย่างที่คิด!