สอนลูกให้พูดภาษาไทย สามีก็พูดภาษาไทยได้นะคะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา "มูนา" สู้รบตบมือกับคนเป็นร้อยที่ดูไบ ผ่านมาได้จนเป็น "มูนา" ทุกวันนี้ ก็เพราะเราเป็นคนแกร่ง... กล้า... สู้ และอดทนมากๆ อะไรที่คนอื่นทำไม่ได้ เรายิ่งต้องทำให้ได้ ชมได้ในรายการทอล์กทะลุดาว ออกอากาศวันพฤหัสฯที่ 2 ต. ค. นี้ เวลา 4 ทุ่ม 15 ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 HD. ถ้าอยากเจาะลึกให้ถึงกึ๋นกว่านี้ ร่วมผ่าดวง "ซินเดอเรลล่าแห่งดูไบ" ทุกซอกทุกมุม กับ "อ. ลักษณ์ เรขานิเทศ" พร้อมสองพิธีกรอารมณ์ดี "แหม่ม-สุริวิภา กุลตังวัฒนา" และ "มดดำ-คชาภา ตันเจริญ" ในรายการทอล์กทะลุดาว ออกอากาศวันพฤหัสฯที่ 2 ต. นี้ เวลา 4 ทุ่ม 15 ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 HD. ทีมข่าวหน้าสตรี
ทราบมาก่อนไหมว่า เขาเป็นมหาเศรษฐีรวยที่สุด 1 ใน 5 ของดูไบ แรกๆไม่ทราบเลย เพื่อนมาบอกว่าผู้ชายคนนี้บ้านใหญ่อย่างกับวัง แต่เราก็พูดตลอดว่าโอ้ยรวยแค่ไหนไม่รู้หรอก แต่ฉันไม่ชอบแขก!!
ห่มเครื่องเพชรเยอะไปทั้งตัว กลัวคนนินทาว่าเว่อร์ไหม?
ชีวิตวัยเด็กสุดเรียบร้อยและอยู่ในกฎของ มูนา อัล ซารูณีย์ ในวัยเด็กนั้น มูนา ใช้ชื่อจริงว่า ปิยะดา เติบโตมาในครอบครัวที่พอมีฐานะไม่ได้ลำบากอะไร คุณพ่อมีอาชีพเป็นข้าราชการตำรวจ ส่วนคุณแม่ทำธุรกิจขายเครื่องเพชร ถึงแม้ว่าในวัยเด็กจะเรียนหนังสือไม่เก่ง แต่เธอก็ปฏิบัติตามคำสอนของพ่อแม่อย่างเคร่งครัด ไม่เคยทำอะไรให้พวกท่านขัดใจ อีกทั้งยังใช้ความสามารถด้านอื่นมาทดแทนผลการเรียนที่ทำได้ไม่ดีนัก เช่น การเย็บปักถักร้อย ประดิษฐ์ประดอยสิ่งของต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งเธอก็สามารถทำมันได้ดีเลยทีเดียว 2. ชีวิตแต่งงานครั้งแรกที่ไม่สมหวัง มูนา อัล ซารูณีย์ เคยผ่านการแต่งงานกับสามีคนไทยมาก่อน พร้อมทั้งมีลูกชายด้วยกัน 2 คน แต่ความรักครั้งนั้นก็ไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง สุดท้ายแล้วจึงต้องจบลงด้วยการแยกทางกัน 3. เปิดบริษัททัวร์จนได้พบรักครั้งใหม่กับเศรษฐีชาวดูไบ ด้วยความที่เป็นผู้หญิงที่มีความขยันขันแข็งพร้อมมีหัวด้านการค้าที่ได้รับมาจากคุณแม่ มูนา อัล ซารูณีย์ จึงเปิดบริษัททัวร์ร่วมกับเพื่อน ๆ ซึ่งกิจการนี้ก็เป็นไปได้สวย มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการทุกระดับ ไม่เว้นแม้กระทั่งเศรษฐีหนุ่มชาวดูไบ อาเหม็ดณู อัล ซารูณีย์ ที่มาใช้บริการทัวร์ของเธออยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังเดินหน้าจีบเธอแบบเต็มกำลัง แม้ว่ามูนาจะได้ยินมาบ้างว่าเศรษฐีหนุ่มชาวดูไบคนนี้ร่ำรวยแค่ไหน แต่เธอก็ยังไม่ได้สนใจอะไรมากนัก 4.
เศรษฐีหนุ่มทุ่มจีบสุดตัว ส่งเงินสดให้ 1 ล้านบาท เพื่อซื้อรถหรู ขณะนั้น อาเหม็ดณู อัล ซารูณีย์ ยังคงต้องบินไป-มาระหว่างไทยกับดูไบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาลดความพยายามในการตามจีบมูนาไปได้เลย เขาทุ่มเทโทรศัพท์มาที่เมืองไทย จนหมดเงินค่าโทร. ไปถึงเดือนละ 4 แสน อีกทั้งยังโอนเงินสดมาให้เธอกว่า 1 ล้านบาท เพื่อซื้อรถคันใหม่ขับ จากความพยายามนานนับปีที่แสดงความจริงใจ ในที่สุดมูนาก็ตัดสินใจแต่งงานกับเศรษฐีหนุ่มเจ้าบุญทุ่ม แล้วเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม อีกทั้งยังเปลี่ยนชื่อจริงจาก ปิยะดา เป็น มูนา ตั้งแต่นั้นมา 5. ต่อสู้ฟันฝ่าในฐานะสะใภ้คนโตของบ้านมหาเศรษฐี ครอบครัวที่รวยอันดับ 5 ของดูไบ หลังจากแต่งงานที่เมืองไทยมูนาและสามียังไม่ได้ย้ายไปอยู่ดูไบในทันที จนกระทั่งมีลูกสาวและลูกชายจึงได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ที่ดูไบ เมื่อไปถึงเธอต้องปรับตัวหลายอย่างเพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมที่นั่น อีกทั้งเธอยังได้ชื่อว่าเป็นสะใภ้คนโตของครอบครัวที่รวยเป็นอันดับ 5 ของประเทศ จึงต้องปรับเปลี่ยนทั้งหมดตั้งแต่การแต่งตัว ซึ่งต้องเน้นประโคมเพชรและเครื่องประดับเข้าไว้จะได้ไม่น้อยหน้าใคร อีกทั้งยังต้องเอาใจแม่สามีอย่างดี จนทำให้เธอได้ขึ้นมาเป็นสะใภ้คนโปรด ที่สะใภ้อื่น ๆ ต้องเชื่อฟัง 6.
สำหรับชื่อของตำนานซินเดอเรลล่าดูไบ คุณมูนา อัลล์ ซารูนี่ณ์ แล้ว ไม่ว่าใครก็คงเคยได้ยิน เพราะเธอคือสาวไทยที่พบรักกับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของดูไบ มร. อาเหม็ดณูร์ อัล ซารูนี่ณ์ อภิมหาเศรษฐีติดอันดับ 1 ใน 5 ของดูไบ จนทำให้หลายคนอยากมีชีวิตเฉกเช่นเธอที่ใช้ชีวิตดุจเจ้าหญิง อ่านเพิ่มเติม: "มูนา อัล ซารูณีย์" จากสาวธรรมดาสู่ "ภรรยาเศรษฐีดังเมืองดูไบ" สะใภ้แย่งกันเด่น-แม่สามีไม่ชอบ แต่ตอนนี้กลับหลงรัก!
เป็นเรื่องธรรมดาของเศรษฐีที่จะมีคนรับใช้คอยช่วยทำนู่นนี่ตลอดเวลา เจ้านายแทบจะไม่ต้องลงมือทำอะไร สำหรับครอบครัวของคุณมูนาก็เช่นกัน เพราะเฉพาะครอบครัวเธอนั้นมีคนรับใช้ถึง 16 คน แต่สามีและแม่สามีกลับบอกว่า ยังไม่พอให้ไปหามาอีก ซึ่งคุณมูนายังบอกไว้ใน รายการคนดังนั่งเคลียร์อีกว่า คนรับใช้ที่นั่นจะมีหน้าที่เดียว ซักผ้า ซื้อกับข้าว ยกกับข้าว ก็ทำอย่างเดียว ฟังดูแล้วไม่แปลกใจเลยว่า 16 คนที่มีอยู่ทำไมถึงไม่พอ!!