ทอมัส ทิลมันส์ ผู้เชี่ยวชาญจากเยอรมนี มาจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้คุณครู นำไปถ่ายทอดให้เด็กรับรู้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่ากิจกรรมการทดลองจะช่วยกระตุ้นให้เด็กๆ สังเกต รู้จักตั้งคำถาม และค้นหาคำตอบด้วยตนเองมากขึ้น ด้านนางฤทัย จงสฤษดิ์ วิทยากรอบรมจากฝ่ายสร้างความตระหนักทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สวทช. กล่าวว่า สวทช. จะเป็นวิทยากรผู้จัดอบรมให้แก่คุณครูในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี แบ่งออกเป็น 3 ครั้งตามชุดการทดลอง ได้แก่ เรื่องน้ำ ที่มีเรื่องหลอดดำน้ำ เนินน้ำ หมุดลอยน้ำ สนุกกับฟองสบู่ และการละลายของน้ำตาล นอกจากนั้น เป็นเรื่องอากาศ และไฟฟ้า โดยในแต่ละเรื่องจะมีการทดลองไม่ต่ำกว่า 10 การทดลอง เบื้องต้นคุณครูจะได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริงในทุกการทดลอง จากนั้นต้องสลับหมุนเวียนกันทดลองเป็นวิทยากรสอนเพื่อนครูด้วยกัน เพื่อทดสอบว่ามีความเข้าใจและถ่ายทอดได้ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากภายหลังการอบรมจะต้องคัดเลือกชุดการทดลอง 20 ชุดไปสอนให้เด็กๆ ในหลักสูตรการศึกษาประจำปี 2554 พร้อมทั้งจัดทำรายงานผลการเรียนการสอนมาที่ สวทช. ขณะเดียวกัน สวทช. จะจัดคณะกรรมการติดตามประเมินผลในโรงเรียนต่างๆ และหวังว่าทุกการทดลองจะช่วยจุดประกายความคิดและเป็นแนวทางให้คุณครูสามารถนำอุปกรณ์ง่ายๆ มาพัฒนาชุดการทดลองด้วยตนเองที่มีความเหมาะสมกับนักเรียนต่อไป
เกาะลันตา จ. กระบี่ เป็นครูมา 10 ปี เผยว่า "โครงการนี้ทำให้เด็กได้พัฒนาด้านสติปัญญา ร่างกาย สังคม จิตใจ ผลที่ได้คือเด็กเรียนอย่างมีความสุข สนุกสนาน มีวิวัฒนาการที่ดีขึ้น เกิดความกล้าที่จะถาม ในกรณีที่เด็กอาจยังไม่กล้าถาม ทางครูจะปรึกษาและเข้าผ่านทางผู้ปกครอง ทำให้เกิดความใกล้ชิดทั้ง 3 ส่วนคือ ครู ผู้ปกคอรง และเด็ก ร่วมทั้งทางโรงเรียนมีหลักสูตรวิทยาศาสตร์ที่ต่อเนื่องด้วย ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามาเยอะและเปลี่ยนแปลงทุกวัน ถ้าผู้ปกครองและครูไม่ช่วยกัน เด็กก็จะขาดโอกาสและขาดการพัฒนา ทุกฝ่ายช่วยกันพันฒนาเด็กในวันนี้ให้ได้ดีที่สุด" ตัวแทนครูภาคเหนือ นางสาวรจนา พุทธวงค์ โรงเรียนอนุบาลดอยหลวง จ. เชียงราย เผยว่า "การได้เข้าอบรมในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เป็นการสร้างโอกาสให้เราได้เกิดมุมมอง ไอเดีย ความรู้ใหม่ๆ ที่สามารถนำมาส่งต่อกับเด็ก ทำให้เราเองรู้ว่าเราสามารถนำธรรมชาติที่อยู่รอบตัว มาเป็นสื่อการสอนและยังเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก เพราะเด็กได้พัฒนาทั้งด้านวิทยาศาสตร์ และชื่นชอบในธรรมชาติ" ตัวแทนครูภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นางสาวอารีย์ เจียมรัมย์ โรงเรียนบ้านโคกสูง สพป. บร. 2 จ. บุรีรัมย์ เผยว่า "ทางโรงเรียนเน้นให้เด็กเรียนรู้กับธรรมชาติ ซึ่งโครงการนี้เน้นการปฏิบัติทำให้เด็กเกิดความชอบโดยไม่รู้ตัว กระตือรือรน เกิดความรักโรงเรียน รักท้องถิ่น ไม่เคยขาดเรียชอบทำกิจกรรม เด็กมีจินตนาการ และทำให้เด็กได้มีการต่อยอดหลังจากที่เข้าเรียนเต่อในชั้นเรีนประถม เด็กไม่เพียงชอบวิทยาศาสตร์ แต่เด็กมีการเรียนรู้ที่เร็ว เด็กได้สร้างสรรค์ เติบโต เป็นพลังของประเทศไทยต่อไป" ตัวแทนครูภาคกลาง นางสาวกิติยา ศรีวิชัย โรงเรียนบ้านเกริงกระเวีย จ.
เขียนโดย neeranan ใน 16 มิถุนายน 2017. โพสใน โครงการพระราชดําริฯ ภายในประเทศ. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท. ) ได้ลงนามความร่วมมือกับมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. ) องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช. ) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ. ) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว. ) บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด และกลุ่มบริษัทบีกริมส์ เพื่อเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในระดับปฐมวัยตามแนวทางโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย โดย สสวท.
ครูประจำชั้นอนุบาล 1 และอนุบาล 2 สาธิตและให้นักเรียนทำการทด ลองทางวิทยาศาสตร์ ตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสต ร์น้อยแห่งประเทศไทย เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู ้และปฏฺิิบัติจริงเกี่ยวกับ ปรากฎการณ์ต่างๆ ในธรรมชาติ คลิกที่นี่เพื่อดูภาพเพิ่มเติม...
กาญจนบุรี เผยว่า "เห็นได้ชัดเลยว่าเด็กคิดอะไรได้เยอะจริงๆ รู้ได้ด้วยคำถามที่เด็กถาม เรามีพาเด็กไปสัมผัสธรรมชติ ทั้ง ชุมชน วัด ฯลฯ จนทำให้เราซึ่งเป็นครูก็ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับเด็ก ครูเองก็สนุกไปด้วยตื่นเต้นว่าวันนี้เด็ก จะถามอะไรเราบ้าง ทำให้เราเตรียมแผนการสอนมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนั้นยังเห็นได้ชัดว่า เด็กมีกระบวนการเป็นขั้นตอน มีวิธีในการแก้ปัญหา และนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ผลที่ได้รับกลับมาทำให้เรามีกำลังใจในการสอนมากขึ้น และครูได้นำสิ่งที่ได้จากโครงการนี้ ไปบูรณาการในการสอนหน่วยต่างๆ อีกด้วยค่ะ"