แบบเฉพาะที่ รอยโรคมักจะ เกิดเป็นหย่อม ๆ ที่บริเวณใบหน้า หัว รอบตา จำนวนของรอยโรคจะไม่เกิน 3-5 ตำแหน่ง มักพบในลูกสุนัข อายุ 3-6 เดือน หากเป็นประเภทนี้การพยากรณ์โรคจะดี บางรายอาจหายได้เอง แต่บางรายอาจพัฒนากลายเป็นแบบกระจายทั่วตัวได้ 2. แบบกระจายทั่ว ตัว มักพบรอยโรค ที่บริเวณใบหน้า หัว รอบตา ลำตัว ขา ฝ่าเท้า และอุ้งเท้า กระจายเป็นบริเวณกว้าง สามารถพบได้ในสุนัขที่มีอายุระหว่าง 3-18 เดือน และสามารถพบได้ในสุนัขที่โตเต็มที่แล้ว ทราบได้อย่างไรว่าเป็นโรคไรขี้เรื้อนเปียก คุณหมอจะใช้วิธีการขูดตรวจผิวหนังชั้นลึกด้วยวิธี deep skin scraping ในหลาย ๆ ตำแหน่ง วิธีนี้อาจทำให้น้องหมามีเลือดไหลซิบ ๆ ออกมาบ้าง แต่เพื่อน ๆ ไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด สาเหตุที่ต้องขูดตรวจชั้นลึก ก็เพราะว่า เจ้าตัวไรขี้เรื้อนดีโมเด็กซ์ ( Demodex spp. )
Halo สาวๆจีบันทุกคน วันนี้จะมาฝอยเรื่องโกนขนขาที่พี่ทำมาเป็นประจำตลอดๆ เรื่องของเรื่อง คือ ที่โกนขนขาเพราะพี่ชอบใส่ขาสั้น เห็นขนขาแล้วรู้สึกหมั่นไส้ และอีกอย่างอยากลอง เพราะมีคนเคยบอกตลอดว่า โกนขนขาแล้วขนจะใหม่ที่ขึ้นมาจะมากกว่าเดิมและแข็งด้วย (ไม่จริงสำหรับเราบอกเลย) เคยกำจัดขนขามาหลากหลายวิธีนะทั้ง 1. ครีมทาขนขา ใช้พายทาแล้วปาดออก คือขนออกไม่หมด ปาดไปบางทีรู้สึกระคายเคือง เหม็นแสบจมูก และบางทีผื่นขึ้น 2. แว๊ก ง่ายและรวดเร็วจริง แต่ชั้นเจ็บ ชั้นไม่ชิน หน้าแข้งแดงเป็นปื้น ๆ ออกร้อนวูบวาบ นานๆทีทำมันถึงจะโอเคสำหรับพี่ 3. ถอน เจ็บแต่แอบซาดิสสะใจดี แต่รูขุมขนกว้างขึ้น ระคายเคือง มีสิวมีตุ่มขึ้น แถมขนขึ้นเส้นใหญ่กว่าเดิม **** 4. โกน (พี่เลือกวิธีนี้) เพราะสะดวก ง่าย ไม่เจ็บ แต่.... ใช่ว่าจะโกนแล้วจะไม่มีข้อเสียนะจ๊ะ -ห้ามโกนเร็วเดี๋ยวผิวอักเสบ เป็นแผลถลอกแสบ -ใช้มีดโกนคมๆ ถ้าใช้ทื่อๆโกนไม่ออก ขนคุดได้ -อย่าลืมทาโฟมหรือครีมโกนขน ก่อนโกนทุกครั้ง ถ้าไม่มีใช้ออยทาผิว หรือ ครีมนวดผมแทน -โกนเสร็จแล้ว ล้างผิวให้สะอาดทาออยล์ตาม แนะนำอย่าทาครีมหลังโกน เพราะขนจะเกิดเร็วขึ้น -โกนตอนเย็นดีที่สุด เพราะเราจะไม่เจอมลภาวะ จะได้ไม่ระคายเคือง โกนเสร็จนอนเลยก็ดีจ้า -หลังโกนไป 3-4 วัน *** อย่าลืม!!!!!
อ่าน 141, 854 อย่าเพิ่งเขิน อย่าเพิ่งอาย เรารู้ว่าเธอเองก็มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องขนน้องสาวเหมือนกันทุกคนนั่นแหละ อยากเอาออกเพราะมันอับ มันชื้น แถมใส่บิกินี่ก็ไม่น่ารัก บางทีก็เยอะจนทำให้น้องสาวดูบวมใหญ่ขึ้นมาเลยก็มี แต่ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร มาทางนี้เลยละกัน ไม่ต้องไปหาที่ปรึกษาใดๆแล้ว Gangbeauty พูดเลยละกันจะได้ไม่ต้องมีใครมาเขินมาอาย โดยวิธีกำจัดขนน้องสาวน่ะง่ายมาก แค่เธอมีมีดโกนก็เอาอยู่ แต่จะโกนยังไงให้ไม่คัน มันก็ต้องมีเคล็ดลับกันหน่อย 1. เลือกใบมีดโกนแบบคู่ซ้อน มันจะมีโอกาสบาด ทำให้น้องสาวเป็นแผลได้น้อยกว่าแบบอื่น หรือถ้ามีงบกับมีดโกนเยอะหน่อย ก็เลือกซื้อที่มีสารหล่อลื่นในตัวมาใช้ แพงกว่า แต่ปลอดภัยกว่า บาดขึ้นมา คิดภาพความแสบไม่ออกเลยอะ แง้ 2. ก่อนจะโกนขนออกไปควร ทำให้นางเปียกซะก่อน โดนน้ำที่ควรใช้อาบขนก่อนโกน ก็คือน้ำอุ่นจ้ะ เพราะมันจะช่วยเปิดรูขุมขน พอรูขุมขนกว้าง เส้นขนมันก็หลุดออกมาง่ายกว่า ทีนี้ก็โกนง่ายกว่า 3. อีกอย่างที่จะช่วยเซฟอันตรายได้มากขึ้น ก็คือการ ใช้ครีมโกนขน ทาทับอีกรอบจ้ะ เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลดแรงเสียดสีระหว่างมีดโกนกับผิวหนัง ลดอาการคันจากการโกนได้มากพอตัว ฉะนั้นเมื่อขนเปียก ให้ปาดครีมโกนขนลงไปก่อน หรือไม่ก็ใช้สบู่นี่แหละ แต่ต้องฟองเยอะๆเลยนะ แทนกันได้อยู่ 4.
สพ. ธีรภาพ มุสิกานนท์ รูปภาพประกอบ:.
หากจะกล่าวถึงโรคผิวหนังในสุนัขที่ใครหลายคนต่างรู้จัก คงจะหนีไม่พ้น "โรคขี้เรื้อนหรือโรคไรขี้เรื้อน" แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกัน ที่ไม่เข้าใจว่าโรคขี้เรื้อนจริง ๆ แล้วนั้นเป็นอย่างไร จนบางทีก็เหมารวมว่า น้องหมาที่เป็นโรคผิวหนังนั้นเป็นโรคขี้เรื้อนไปเสียหมด ความจริงแล้วโรคผิวหนังเกิดได้จากหลายสาเหตุ โรคขี้เรื้อนก็เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากปรสิตภายนอก คือ ตัวไร (mite) หรือไรขี้เรื้อน ไรขี้เรื้อนที่มักพบมี 2 ชนิด คือ ไรขี้เรื้อนซาร์คอพเตส (Sarcoptes spp. ) กับ ไรขี้เรื้อนดีโมเด็กซ์ ( Demodex spp. )
หากใครที่เลี้ยงน้องแมวอาจจะเคยเห็นน้องแมวอาเจียน หรือแมวอ้วกออกมา และถ้าไปลองสังเกตดีๆ เราจะเห็นว่าที่น้องแมวอ้วกออกมานั้นไม่ใช่เศษอาหาร แต่เป็นก้อนขนแมวที่ออกมาแทน แล้วแมวอ้วกออกมาเป็นก้อนขนแมวแบบนี้จะเป็นอันตรายหรือไม่ แล้วเราต้องจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างไร อย่าเพิ่งกังวลกันไป เพราะเรามีคำตอบมาให้แล้ว ก้อนขนแมวมาจากไหน? หนึ่งในพฤติกรรมของน้องแมวที่เจ้าของน้องแมวมักจะทราบกันอยู่แล้ว ก็คือความรักสะอาดแบบสุดๆ ในหนึ่งวันเรามักจะเห็นน้องแมวดูแลตัวเอง จัดการทำความสะอาดขน เลียขน แต่งขนกันอยู่อย่างนั้นทั้งวัน ร่างกายน้องแมวออกแบบลิ้นมาให้เหมาะกับการดูแลความสะอาดตัวเอง เพราะลิ้นของน้องแมวที่ใช้แต่งขนนั้นมีลักษณะพิเศษคล้ายหนาม เมื่อเลียตัวเองจึงคล้ายกับการแปรงขนไปในตัวนั่นเอง และจะช่วยเกี่ยวเอาขนที่หลุดร่วงออกไปด้วย แล้วเคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่าขนที่น้องแมวเลียทำความสะอาดตัวเองหายไปอยู่ที่ไหน?
ให้คุณหมอฉีดยา ivermectin ทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ ต่อเนื่องกัน 2-3 ครั้ง แต่วิธีนี้ห้ามใช้ในสุนัขบางพันธุ์ เช่น Collie, Old English sheepdog, Shetland sheepdog, Australian Shepherds ฯลฯ และพันธุ์ลูกผสมของพันธุ์ดังกล่าว เพราะเป็นพันธุ์ที่มีความไวต่อยาสูง อาจเสี่ยงแพ้ยาได้ง่าย วิธีนี้ราคารักษาค่อนข้างถูกกว่าวิธีอื่น ๆ แต่จัดเป็นยานอกทะเบียนในน้องหมา (extra-label use) ต้องใช้ตามคำแนะนำของคุณหมอเท่านั้นครับ 2. ใช้วิธีหยดหลังด้วยยา selamectin ทุก 2 สัปดาห์ ติดต่อกัน 3 ครั้ง สามารถใช้ได้ในสุนัขพันธุ์เสี่ยงดังกล่าวได้ 3. ใช้ยา moxidectin+imidaclopid หยดหลังติดต่อกัน 2 ครั้ง ห่างกัน 4 สัปดาห์ สามารถใช้ได้ในสุนัขพันธุ์เสี่ยงดังกล่าวได้เช่นกัน 4.
ขนก็มีทรง และทรงที่ควรก็ไม่ใช่สกินเฮด ไถเกรียนขนาดนั้น อย่างน้อยควรเหลือไว้ป้องกันแบคทีเรียที่เกิดจากความอับชื้น ไม่ให้เข้าสู่ช่องคลอดเราโดยตรงบ้างก็ดี ทรงที่สวยและเหมาะสำหรับขนน้องสาว ก็คือไถข้างจ้ะ เอาแค่ตรงง่ามขา ไม่ให้มันแพลมออกมาเวลาใส่บิกินี่ หรือกางเกงในตัวจิ๋วก็พอ 5. โกนเสร็จก็ล้างครีมออก จากนั้นก็ให้รีบ ทาด้วยน้ำมันธรรมชาติ เช่นน้ำมันใบชา น้ำมันทรีออย เพราะนางจะช่วยลดอาการระคายเคือง บำรุงผิวน้องสาวเราให้เนียนนุ่ม แถมยังช่วยลดอาการอักเสบ ฆ่าเชื้อ ในกรณีที่เธอสักคนพลาด โดนบาดเต็มๆได้ด้วย 6. ครีมบำรุงก็จำเป็นสำหรับน้องสาว โดยเฉพาะช่วงขนขึ้นใหม่ๆ เป็นตอๆน่ะมันน่ารำคาญไปหมด ทั้งแสบทั้งคัน ฉะนั้นก็ ทามอยซ์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ถ้าผิวตรงนั้นแห้งหนักมันก็ยิ่งคันไง แบบนี้ก็พอช่วยได้ หรือใช้เป็นโลชั่นก็ได้ แต่ต้องไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นะ หาพวกที่เป็นวิตามินอี ว่านหางจระเข้ ไม่ก็น้ำมันโจโจบาออย ประมาณนี้ 7. ยังไงมันก็ขึ้นใหม่ ฉะนั้นเราก็ต้องโกนบ่อย อย่าลืม ดูแลรักษาความสะอาดใบมีดโกน เป่าให้แห้งก่อนจะเก็บเอาไว้ในที่ๆนึง แยกไว้เลยว่าอันนี้ของน้องสาวนะ ห้ามเอาไปใช้กับขนจั๊ก หรือขนขา ใช้โกนขนที่มีลัษณะแตกต่างกันบ่อยๆ ใบมีดมันจะทื่อเอาเน้อ!