ตรวจสอบสถานะของตัวเองก่อนสมัครบัตรเครดิต 1. 1 ฐานเงินเดือนขั้นต่ำต้องอยู่ที่ 15, 000 บาท แม้ว่าข้อตกลงของธนาคารจะเริ่มที่ 15, 000 บาท แต่รายได้จำนวนนี้ควรเป็นรายได้ที่ผ่านการหักค่าใช้จ่ายประจำเดือนอื่น ๆ แล้ว เช่น เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา งวดรถ หรือรายจ่ายอื่น ๆ 1. 2 ทำงานมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน ข้อนี้ หมายถึงการได้รับเงินเดือนมาแล้ว 6 เดือน มากกว่า เพราะเอกสารที่คุณต้องยื่นก็คือ สลิปเงินเดือน กับรายการเดินบัญชีธนาคารที่รับเงินเดือน (Statement) 1. 3 สถานที่ทำงานต้องมีความน่าเชื่อถือ สำหรับความน่าเชื่อถือของสถานที่ทำงานในการสมัครบัตรเครดิตสามารถดูได้ดังนี้ 1. 3. 1 มีการจ่ายเงินเดือนตามวันเวลาที่กำหนดทุกเดือน ไม่มีเลื่อนหรือล่าช้า 1. 2 ควรเป็นการจ่ายเงินเดือนเป็นระบบ Payroll ซึ่งเป็นการผูกบัญชีเงินเดือนกับธนาคาร 1. 3 การจ่ายเงินเดือนแบบโอนเข้าบัญชีสามารถเป็นบัตรเครดิตผ่านได้เช่นกัน แต่ไม่ชัวร์เท่าแบบ Payroll 1. 4 บริษัทมีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย 1. 5 บริษัทมีการจ่ายภาษี หักภาษีพนักงาน และจ่ายเบี้ยประกันสังคมให้กับพนักงาน (แสดงในสลิปเงินเดือน) 2. เลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสม 2.
การเซ็นสำเนาถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน เอกสารต่าง ๆ เพื่อใช้ติดต่อธุรกรรมทางการเงิน สมัครเรียน สมัครงาน เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องศึกษาไว้ มาดูวิธีเซ็นสําเนาถูกต้องให้ปลอดภัย ป้องกันภัยจากมิจฉาชีพกันเถอะ!
เมื่อวาน (6 ธ. ค. ) ผมไปสมัครบัตรเครดิตกรุงศรี First Choice ที่สาขาฟอร์จูน รัชดา เอกสาร หลักฐาน สลิปเงินเดือน สมุดบัญชีธนาคาร ผมเตรียมไปครบถ้วนสมบูรณ์ดี มาถึงขั้นตอนเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ผมเซ็นต์ตามปกติ ลายเซ็นทับบัตรประชาชน พร้อมระบุว่าใช้เพื่อ..... เท่านั้น และลงวันที่ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า อย่าเซ็นต์ทับบัตร เพราะธนาคารจะมองข้อความไม่เห็น ให้ผมไปเซ็นต์ตรงที่ว่างๆ ใต้บัตรแทน ตอนนี้ก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ อยากสอบถามคนอื่นและเจ้าหน้าที่ ธ. กรุงศรี ว่าเวลาสมัครบัตรกับกรุงศรี First Choice ต้องเซ็นไม่ให้ทับบัตรประชาชนเหมือนกันหรือเปล่าครับ แก้ไขคำผิด แสดงความคิดเห็น
2 VISA หรือ MasterCard จริง ๆ แล้วในบ้านเรานิยมใช้ทั้ง VISA และ Mastercard แต่ในตอนที่คุณสมัครคุณจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ในบางธนาคารอาจจะมี JCB มาให้เลือกด้วย ซึ่งสำหรับคนที่เปิดบัตรเครดิตใบแรก และต้องการใช้งานที่หลากหลาย เลือกเป็น VISA จะค่อนข้างครอบคลุมทุกร้านค้ามากกว่า รองลงมาจะเป็น MasterCard ส่วน JCB ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร หรือร้านค้าที่มีความเป็นญีปุ่นซึ่งค่อนข้างจะให้โปรโมชั่นที่ดีสำหรับบัตรใบนี้ 3. ทริกการสมัครบัตรเครดิตอย่างไรให้ผ่านฉลุย 3. 1 เตรียมเอกสารการสมัครให้พร้อม เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการสมัครบัตรเครดิตได้แก่ - สำเนาบัตรประชาชน พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง - สำเนาสลิปเงินเดือน 6 เดือน - รายการเดินบัญชีธนาคาร(Statement) 6 เดือน - ใบรับรองเงินเดือนที่ออกโดยบริษัทพร้อมตราประทับ (หากธนาคารจะขอ) - สำเนาทะเบียนบ้าน (บางธนาคารจะขอ) 3.
ขีด 2 เส้นคู่ขนานคร่อมที่ตัวสำเนา จากมุมล่างซ้ายไปมุมบนขวา 2. เขียนข้อความกำกับวัตถุประสงค์ ระหว่างเส้นคร่อมสำเนา – ระบุรายละเอียดให้ชัดเจนว่าใช้สำเนานี้ทำอะไร – โดยขึ้นต้นว่า "เพื่อใช้…" และลงท้ายประโยคด้วยคำว่า "…เท่านั้น" พร้อมเขียนเครื่องหมาย "#" ปิดหัวท้ายของข้อความ เพื่อป้องกันการเติมข้อความภายหลัง – เช่น "# เพื่อใช้สมัครงานที่ (…ชื่อบริษัท…) เท่านั้น #" หรือ "# เพื่อใช้สำหรับติดต่อเรื่อง (…ระบุรายละเอียด…) เท่านั้น #" 3. เขียน วัน เดือน ปี ที่เซ็นสำเนากำกับเอกสาร นอกจากการเขียนรายละเอียดกำกับการใช้แล้ว ควรเขียนระบุ วัน เดือน ปี กำกับสำเนาด้วยทุกครั้ง เพื่อใช้ยืนยันวันที่ใช้งาน และยังเป็นการระบุกำหนดอายุการใช้งานเอกสารสำเนานี้อีกด้วย 4. รับรองสำเนาถูกต้อง โดยเขียนว่า "สำเนาถูกต้อง" พร้อมลงลายมือชื่อ คาดทับรูปถ่าย เพื่อป้องกันการเปลี่ยนรูปถ่าย 5.
Application My Thairath ข่าว กีฬา นิยาย ซื้อ-ขาย หนังสือพิมพ์ บันเทิง มัลติมีเดีย ส่วนลด ไทยรัฐทีวี ดวง วิดีโอ เช็คราคา ไลฟ์สไตล์ หวย MIRROR Podcast ติดต่อโฆษณา ร่วมงานกับเรา ติดต่อเรา วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม 2564 เวลา 10:00 น.
3 เลือกบัตรตามฐานเงินเดือนหลังหักค่าใช้จ่าย หากคุณมีรายได้อยู่ที่ 30, 000 บาท และบัตร gold มีไว้สำหรับคนที่มีฐานเงินเดือนตั้งแต่ 30, 000 บาทขึ้นไป เราแนะนำให้คุณลดลงมาสมัครบัตรปกติดีกว่า เพราะธนาคารจะมีการหักลบรายจ่ายต่อเดือนของคุณออก เช่น ค่าเช่าห้อง ค่าโทรศัพท์ ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ทำให้ฐานรายได้ของคุณต่ำกว่า 30, 000 บาท และอาจจะเปิดบัตรไม่สำเร็จ เราแนะนำให้คุณใช้บัตรธรรมดาไปก่อนหากธนาคารเห็นว่าคุณสามารถใช้บัตรระดับสูงกว่าได้ธนาคารจะยื่นข้อเสนอเปลี่ยนบัตรให้คุณเอง 3. 4 ฝึกเซ็นชื่อให้เหมือนกัน การเซ็นชื่อสำคัญมากในการเปิดบัตรเครดิต หลายคนงงว่าทำไมเปิดบัตรไม่ผ่าน คำตอบอาจจะอยุ่ที่การเซ็นชื่อนั่นเอง แม้แต่ในบัตรเครดิตที่เปิดง่ายก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ 3. 5 กรอกข้อมูลอย่างมีสติ และห้ามผิด การกรอกข้อมูลขอเปิดบัตรเครดิต ช่องที่กรอกของแต่ละธนาคารจะมีความซับซ้อน งงงวยมาก คุณควรถามเจ้าหน้าที่ให้เยอะ ๆ หรือตรวจดูรอบหนึ่งก่อนกรอก เพราะถ้าคุณกรอกผิดคุณจะต้องแก้ไขโดยการเซ็นชื่อกำกับทุกครั้ง และถ้าการกรอกข้อมูลของคุณผิดเยอะเกินไป รับรองว่าการสมัครบัตรของคุณไม่ผ่านอย่างแน่นอน 3. 6 กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน การกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณต้องมี Email หากคุณกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน จะมีผลกับการพิจารณาได้ บางธนาคารอาจจะมีการโทรมาสอบถามเพิ่มเติม บางธนาคารอาจจะส่งเอกสารมาให้คุณกรอกเพิ่มเติม และในบางสถาบันการเงินอาจจะปฏิเสธการเปิดบัตรเครดิตของคุณไปเลย 3.
8 สมัครทีละหลาย ๆ ใบ ทุกครั้งที่คุณสมัครบัตรเครดิต สถาบันการเงินจะขอเช็คเครดิตบูโรของคุณ หากคุณสมัครบัตรทีละใบ และไม่ผ่านสักที ธนาคารจะเห็นการยื่นเรื่องขอดูเครดิตบูโร และอาจจะสงสัยว่าคุณอาจจะมีบัตรเครดิตเยอะเกินไป ทำให้ไม่อนุมัติบัตรให้คุณได้ แต่ถ้าหากยื่นทีเดียวพร้อม ๆ กัน หลายธนาคาร ข้อมูลจะยังไม่ขึ้นในเครดิตบูโรตอนที่ธนาคารยื่นตรวจ 3.